หูไม่ได้ยิน คือ ภาวะที่ผู้ป่วยสูญเสียการได้ยินอย่างเฉียบพลันหรือประสาทหูเสื่อมอย่างเฉียบพลัน ทำให้ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ อาการนี้มักเกิดขึ้นกับหูเพียงข้างเดียว และอาจเกิดในชั่วขณะ หรือเป็นเวลาหลายวัน อาการหูไม่ได้ยินสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลัก ๆ แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
สาเหตุจากหูชั้นนอก : หูชั้นนอกทำหน้าที่รับเสียงจากสิ่งแวดล้อมแล้วส่งผ่านไปยังหูชั้นกลาง สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ขี้หูอุดตัน เกิดจากการสะสมของขี้หูในรูหูจนอุดตันทางเดินเสียง ทำให้เสียงไม่สามารถผ่านเข้าไปยังหูชั้นกลางได้
- รูหูอักเสบหรือเป็นเชื้อรา เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในรูหู ทำให้มีอาการปวด บวม แดง และอาจมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลออกมา
สาเหตุจากหูชั้นกลาง :หูชั้นกลางทำหน้าที่ส่งเสียงจากหูชั้นนอกไปยังหูชั้นใน สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่
- เยื่อแก้วหูทะลุ เกิดจากการกระทบกระแทกหรือติดเชื้อในหูชั้นกลาง ทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาด
- มีน้ำขังในหูชั้นกลาง เกิดจากการติดเชื้อในหูชั้นกลาง หรือเกิดจากท่อปรับความดันอากาศ (Eustachian tube) ทำงานผิดปกติ ทำให้น้ำในหูชั้นกลางไม่สามารถระบายออกได้
- โรคหูน้ำหนวก เกิดจากการติดเชื้อในหูชั้นกลางเรื้อรัง ทำให้มีการอักเสบและสะสมของเหลวในหูชั้นกลาง
- โรคหินปูนเกาะที่กระดูกนำเสียง เกิดจากการสะสมของหินปูนในกระดูกนำเสียง ทำให้การได้ยินลดลง
- ความผิดปกติของท่อปรับความดันอากาศ (Eustachian tube) เกิดจากการอุดตันหรือตีบตันของท่อปรับความดันอากาศ ทำให้ไม่สามารถปรับความดันในหูชั้นกลางให้เท่ากันกับความดันภายนอกได้
สาเหตุจากหูชั้นใน : หูชั้นในทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงให้เป็นสัญญาณประสาทเพื่อส่งไปยังสมอง สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่
- โรคประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน เกิดจากการบาดเจ็บหรือได้รับเสียงดังมากในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้เส้นประสาทหูเสื่อมหรือเสียหาย
- โรค Meniere’s Disease เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน ทำให้มีอาการหูอื้อ เวียนศีรษะ และเสียงดังในหู
- โรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากการอุดตันหรือแตกของหลอดเลือดในสมอง ทำให้เส้นประสาทหูได้รับความเสียหาย
- โรคเนื้องอกในสมอง เกิดจากการเจริญเติบโตของเนื้องอกในสมอง ซึ่งอาจกดทับหรือทำลายเส้นประสาทหู
สาเหตุจากสาเหตุอื่น ๆ : นอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้หูไม่ได้ยินได้ เช่น
- โรคโลหิตจาง โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคเกล็ดเลือดสูงผิดปกติ โรคที่มีระดับยูริกในเลือดสูง โรคไต โรคเบาหวาน ความดันโลหิตต่ำ หรือสูง ไขมันในเลือดสูง
อาการหูไม่ได้ยินอาจเกิดขึ้นได้เพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไปตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงมาก ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค หากมีอาการหูไม่ได้ยินควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม